วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ป้ายบอกทางชีวิต

เราทุกคนต่างเป็นนักเดินทางไม่ว่าจะมองมุมใดของชีวิตเรา ก็มีการเดินทางเป็นของตัวเองอยู่ดี

หลายคนน่าจะเคยพลัดหลง
สับสนหรือสงสัยกับเส้นทางของตัวเอง
อย่างน้อยก็น่าจะหลายๆครั้ง ...

สำหรับผม...

จุดเปลี่ยนจริงๆ ครั้งยิ่งใหญ่ของผม ก็น่าจะเป็นตอนที่ตัวเองนั่งเรียนวิชาเลขอยู่ในห้อง

ตอนนั้นก็ราวๆ ปวช.ปีสุดท้าย ของการเรียนถ่ายภาพ
เทียบค่ากับเด็กสายมัธยมก็ น่าจะเป็นช่วง ม.หก
วิชาเลขนี้....สุดโปรดเลยครับ โปรดที่จะให้มันจบไปไวไว

ตลอดเวลาที่นั่งเรียนก็ไม่เข้าใจว่า จะเรียนวิชานี้ไปทำไม
โจทย์มันเริ่มยากขึ้นและยากขึ้นทุกๆวัน
หลักๆ ก็คิดแต่ว่า...เราน่าจะจบออกไปแล้วเป็นช่างภาพ
ออกไปถ่ายรูป เดินถือกล้อง ดูดี มีความสุข

แต่ในวิชานี้ ตัวเลขมันเยอะขึ้น สูตรมันก็ค่อนข้างมากขึ้นๆ เป็นเงาตามตัว
รู้สึกว่า...เหมือนกับเลขพวกนี้มันน่าจะเหมาะกับพวกที่เรียนวิศวะ หรือ นักฟิสิกส์อะไรเทือกๆนั้น
ผมก้มหน้าก้มตา นั่งแทนค่าหาสมการ อะไรคือX อะไรคือY ดูกราฟคว่ำๆ หงายๆ
อยู่พักใหญ่ ก็อดรนทนไม่ไหว ว่าจะเรียนไปทำไม อ้ายสูตรและสมการนรกพวกนี้
จบออกไปก็ถือกล้องออกไปถ่ายรูป อยู่ดี

อย่ากระนั้นเลย ตัดสินใจพรวดพราดยืนขึ้นถามอาจารย์ทันที


ดอกเตอร์....ครับ ทำไมพวกผมต้องเรียนเลขพวกนี้ด้วยครับ มันดูยากมาก
ผมไม่เข้าใจว่ามันจะเอาไปใช้อะไรในชีวิตประจำวันกับการรู้จักไอ้สมการเอ็กซ์
สมการวาย ค่าล๊อกกาลิทึ่ม สูตรนั่นสูตรนี่อีกเต็มไปหมด


ด๊อกเตอร์อึ้งไปนิดหน่อยกับคำถามของผม รวมทั้งเพื่อนๆ บางคนที่มีสีหน้าเห็นด้วยว่า จริงว่ะ


เธอถามแบบนี้ก็ดี แล้ว ดอกเตอร์ตอบสวนขึ้นทันที

เลขน่ะมันมีเอาไว้ให้เรารู้จัก มีเหตุ มีผล
รู้จักที่มา รู้จักตรรกะ รู้จักวิธีคิดและรู้จักวิธีทำ

พวกเธอน่ะถูกฝึกให้รู้จักแต่จินตนาการ จนละเลยเหตุและผล
หากพวกเธอได้แต่คิดเป็น ฝันเป็น แต่ทำจริงไม่ได้ มันจะมีประโยชน์อะไร

ฉะนั้นเธอลองดูนี่

แล้วอาจารย์ก็ขึ้นโจทย์ใหม่บนกระดาน ยกตัวอย่าง เลขง่ายๆ มาข้อหนึ่ง

"เธอเห็นไหมว่า วิชาเลขน่ะมันประกอบไปด้วยโจทย์ วิธีทำ และคำตอบ
เราตั้งโจทย์ ได้วิธีทำ ได้ผลลัพภ์เป็นคำตอบ"

"ความมหัศจรรย์ของมันอยู่ที่ ในโจทย์เดิมมันต้องได้คำตอบเดียว
แต่พวกเธอดูที่วิธีทำซิ....

มีวิธีทำที่........๑

วิธีทำที่..........๒

วิธีทำที่..........๓

และก็วิธีทำที่....๔


เธอเห็นไหมว่าเกิดอะไรขี้น

เราสามารถทำกับมันได้ เป็นสิบวิธี .... หากเรารู้จักมัน


ผมอึ้งไปพักหนึ่ง
เหมือนจะมีคำถาม
แต่ด๊อกเตอร์ก็อธิบายต่อว่า



"กลับกัน เธอดูนี่ ถ้าเรามีคำตอบรออยู่" ตอนนี้คำตอบเปลี่ยนมาเป็นคำถาม
"จากเลขตัวเดิม เธอหาโจทย์ได้กี่โจทย์ในเลข ตัวนี้"

ตอนนั้น บนกระดานดำ โจทย์และวิธีทำต่างๆ ถูกเขียนออกมามากมาย
ที่เราต้องให้พวกเธอเรียนเลข นั่นก็เพราะหัดให้เธอ ดูโจทย์
หัดให้มีเหตุมีผล รู้จักที่มา รู้จักวิธีการคิด รู้จักวิธีการทำ เพื่อผลของมัน นั่นคือ ....คำตอบ


เห็นคำตอบไหม...?

เธออาจจะรู้มาว่าคำตอบในโลกนี้มันช่างมากมาย จริงแล้วไม่ใช่
จริงๆ คำตอบจะมีข้อเดียวเสมอ แต่วิธีการต่างๆ ต่างหากที่มากมาย
คำๆ นี้กระแทกลงไปในหัวอย่ารุนแรงอีกครั้ง

จริงๆ คำตอบจะมีข้อเดียวเสมอ แต่วิธีการต่างๆ ต่างหากที่มีมากมาย


หากแต่พวกเธอคิดออกมาแล้วได้คำตอบ ออกมามากมาย
พวกเธอพึงระลึกไว้เสมอว่า นั่นไม่ใช่คำตอบ

หากแต่ว่ามันเป็นการกลับไปหาคำถาม .. ต่างหาก

ลองย้อนกลับไปถามตัวเองซิว่า อะไรบ้างที่ คิดแล้วได้คำตอบมากมาย
อันนั้นเป็นคำตอบที่ถูกต้องไหม ? คำตอบนั้นเป็นคำตอบไหม ?
หรือคำตอบกลายเป็นคำถามมันจึงออกมามากมายขนาดนั้น


ผมนิ่ง อึ้ง ... กับคำตอบ ที่แสนจะมากมาย
ของผมและของด๊อกเตอร์เอง

ผมเริ่มนิ่งเงียบและนั่งดูด๊อกเตอร์ต่อไปเรื่อยๆ

"ลองดูวิธีทำซิ" ดอกเตอร์ขึ้นตัวเลขใหม่บนกระดาน
"มันก็ไม่ต่างจากวิธีการคิด ของพวกเธอ
มีทั้งแบบสั้น แบบยาว แบบสมบูรณ์ หรือจะคิดแบบวิธีลัดล่ะ"



ไม่ว่าจะคิดยังไง คิดวิธีไหน มันก็ต้องได้คำตอบเดียวเสมอ
มันถึงจะเป็นคำตอบที่ถูกต้อง
หากโจทย์มันเป็นคำถาม ไม่ใช่โจทย์มันเป็นคำตอบ


ทีนี้พวกเธอมองออกหรือยัง ว่าวิชาคณิตศาสตร์มีประโยชน์กับพวกเธอยังไง



นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
ผมเริ่มเปิดใจให้กับหลายสิ่งในชิวิตมากขึ้น
ไม่เคยปฎิเสธอะไร

เพราะ

ดอกเตอร์ เขียนสารพัดสูตรลงไปบนกระดานดำ
สูตรต่างที่เราไม่เคยรู้จัก แลัวอธิบายต่อว่า
วิธีการแก้โจทย์ก็คือการใช้สูตรต่างๆ
หากเราไม่รู้จักสูตรหรือใช้สูตรไม่ถูกต้อง คำตอบก็มักผิดเสมอ


ลองกลับไปดูที่ชีวิตเธอซิ ตอนนี้เธอรู้จักสูตรในชิวิตมากแค่ไหน
รู้จักอะไรบ้าง เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เพื่อเป็นสูตรในการแก้ปัญหาบ้าง


การเรียนเลขก็เป็นสูตรหนึ่งที่พวกเธอต้องรู้จัก
ตรรกะของงานที่แท้จริงที่คือ มันต้องทำซ้ำได้

เห็นไหมว่า คณิตศาสตร์ทำซ้ำได้ เกิดการถ่ายทอด เกิดการต่อยอด
จะมีค่าอะไรถ้าหากผลงานของเธอ ทำซ้ำไม่ได้ แล้วไม่มีใครต่อยอดได้


เธอเคยเห็นป้ายบอกทางไหม....?

หากป้ายนั้นไร้ซึ่งตัวเลข
เธอจะรู้ไหมว่ามันจะจบ หรือ สิ้นสุดเมื่อใด

ชิวิตเธอก็เช่นกัน

เธอควรจะรู้จักตัวเลขและทำความเข้าใจสูตรต่างๆ
แล้วเลือกออกมาแทนค่า เพื่อหาผลลัภพ์ของมัน


คณิตศาสตร์คือส่วนหนึ่งของชีวิต ชิวิตจำเป็นต้องมีคณิตศาสตร์

บุคคนต่างๆ ในชิวิตของเธอก็เหมือนกับตัวเลขหนึ่งตั
เครื่องหมายต่างๆ ก็เหมือนกับ อาวุธ การเรียนรู้ คำพูดและบทสนทนา


เราต่างเป็นนักเดินทาง ด้วยกันทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะเลือกเดินแบบไหน แบบสั้น แบบยาว แบบทางลัดหรือแบบสมบูรณ์
เราก็มีการเดินทางเป็นของตัวเองอยู่ดี


เพราะเธอรู้แล้วนี่ว่า ป้ายบอกทางของเธอคือตัวเลขอะไร


ป้ายนี้ ..... มีโจทย์ว่า

"พี่กุ้ง ลบ พี่ชัย หาร ลุงเพิ่ม คูณด้วยคุณแม่ บวกคุณพ่อ ยกกำลัง น้องจั๊ก แล้วทั้งหมดสแควร์รูทด้วยคุณครู "


ว่าไง ....ได้คำตอบหรือยัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น