วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

สมุดเล่มเล็ก...ในใจ

การวัดการเดินทางที่ดีที่สุดคือเพื่อน ไม่ใช่ระยะทาง

ข้อความจากสมุดบันทึกนี้ได้หล่นออกมาจาก

การจัดชั้นหนังสือใหม่ ภายในห้องนอนของผม
ผมจำไม่ได้ว่าเขียนมันเอาไว้ตอนไหน
แต่มันก็มีอำนาจพอที่จะทำให้
หยิบสมุดเล่มนั้นออกมาอ่านอีกครั้ง
ถึงแม้ว่าสีของปกสมุดจะเก่าและซีดจางเพียงใดก็ตาม
แต่เรื่องราวต่างๆภายในมันไม่ได้เก่าตามไปเลย


ผมบรรจงนั่งลงอ่านมันอย่างช้าๆ
ถ้อยคำต่างมันแล่นออกมาจากหน้ากระดาษอย่างต่อเนื่อง
ทุกบรรทัดอัดแน่นด้วยวันที่ เวลา ระยะทาง
และความทรงจำของสถานที่ต่างๆที่ผมไปเยือน


ผมปิดมันอย่างช้าๆและแทบจะไม่ต้องอ่านอะไรอีกแล้ว
เพราะมันคือสมุดบันทึกที่ผมใช้ระหว่างการเดินทาง


ภาพแห่งความทรงจำ
ต่างหวนกลับมาหาผมโดยแทบไม่ทันตั้งตัว
มันเหมือนเพิ่งเกิดขึ้น และเกิดขึ้นเมื่อวาน


ปลายธันวาคม

1...

ผมอยู่ในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งท่ามกลางขุนเขา ... ห่างไกล
มันดูเงียบและสงบ แต่ในใจผมซิ กลับตื่นเต้นและส่งเสียงดัง อยู่อย่างตลอดเวลา


2...
ไม่รู้ว่าจะมีใครได้ยินเสียงหัวใจของผมหรือเปล่า
เพราะรอบๆตัวผมนั้นเต็มไปด้วยผู้คนแปลกหน้า และภาษาที่ไม่คุนเคย
คงไม่มีใครรู้หรอกนะว่าผมพูดว่าอะไร


3...
ภาพตรงหน้าผมช่างตระการตาเสียจริง
ไม่เสียแรงที่วันนี้ผมดั้นด้นไต่ผาสูงและโขดหินตะปุ่มตะป่ำอันลาดชันขึ้นมาที่นี่
ตอนแรกคิดว่ามันจะเดินแบบง่ายๆ แต่ที่ไหนได้
การผ่านทุ่งหญ้าและหมู่บ้านที่ต้นทาง กลับกลายเป็นแค่โหมโรง ...เท่านั้นเอง


4...
ความพยายามของผมเต็มไปด้วยความรู้สึกหลายอย่าง ปะปนระคนกันไป
ตามลักษณะของโขดหินที่เรียงรายอยู่ตรงหน้า
ถึงแม้ผมจะลุกขึ้น ยืน เดิน ด้วยความปวดระบมของกล้ามเนื้อ
แต่ในใจผม ...มันกลับระคนปนเปไปด้วยจังหวะแห่ง ความหวัง .. ..


5...
เช้าวันนี้เป็นเช้าที่สดใส มีคนเคยบอกว่า..
เมื่อดวงตาได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
หัวใจก็รู้สึกอย่างที่ไม่เคยรู้สึก
วันนี้ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
ผมยืนนิ่งอยู่กับตัวเองด้วยความหวังเงียบๆ


6...
เมื่อหวนคิดถึงชีวิตที่ผ่านมา
ผมพบว่าช่วงเวลาที่ได้ใชัชีวิตจริงๆนั้น
คือช่วงเวลาที่ผมได้ทำสิ่งต่างๆด้วยใจรัก
เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นเรียงตามลำดับเวลา
ทว่าความสำคัญของเหตุการณ์ต่อตัวเรานั้น
เรียงตามลำดับของมันเอง
เปิดเผยต่อเนื่องเรียงกันอย่างไม่ขาดสาย


7...

บางครั้งเมื่อผมใคร่ครวญถึงผลอันยิ่งใหญ่
ที่เกิดขึ้นจากสิ่งเล็กน้อยๆ แล้ว
ผมก็อยากจะเชื่อว่า
โลกนี้ไม่มีสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แม้แต่สิ่งเดียวเลย
นี่คืออีกสิ่งหนึ่งที่ค้นพบ ในโลกอันไพศาลและต้องมนต์ขลัง


8...
ผมนั่งอยู่ที่นี่นานเหมือนกัน
เหมือนกับว่าดินแดนแห่งนี้พยายามจะบอกอะไรผม
ผมเงี่ยหูฟังอยู่พักหนึ่ง และในที่สุดก็พบคำตอบ


ผมวางสมุดบันทึกไว้ข้างตัว
นั่งดูรูปต่่างๆ ที่ทยอยวิ่งเข้ามาปะทะบนใบหน้า

ถึงแม้สมุดและภาพต่างๆจะถูกปิดลง
และถึงแม้นว่ามันจะหายไปไหนแล้วก็ตาม .....ไม่จะอย่างไรก็ตาม
ภาพความทรงจำของผมก็คงไม่มีทางเลือนหายไปอย่างแน่นอน
มันกลับชัดขึ้นๆ ทุกครั้งที่ผมหวนคิดถึงมัน

มันคือการเปลียนแปลงที่ดำเนินไปอย่างลึกซึ้ง
ผมจึงโอบกอดสิ่งเหล่านี้ด้วยความรัก


คัดลอกมาจากสมุดบันทึกซึ่งเขียนไว้เมื่อ

ธันวาคม 2546

ขณะไปถ่ายภาพยนตร์เรื่อง เฟวาโฟคารา ดวงตากับความรัก
ณ. เทือกเขา Annapurna
เมืองโฟคารา ประเทศเนปาล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น